วิทยาลัยมนตรา
เมื่อวิทยาลัยของผู้วิเศษเก่าแก่ที่หนึ่งของไทย มีเด็กชายอายุสิบสามปี ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนนี้พร้อมกับความอัศจรรย์ของโรงเรียนที่ไม่ธรรมดา เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้น
ผู้เข้าชมรวม
159
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ผมได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยแห่งนี้เป็นครั้งแรก วิทยาลัยแห่งนี้เป็นวิทยาลัยของผู้วิเศษที่นี่มีหอนอนแยกเป็นชายและหญิง ที่นี่จะเข้าเรียนตอนอายุสิบสามปีและจะเรียนจบตอนอายุสิบแปดปี เวลาจะมาที่วิทยาลัยแห่งนี้ต้องมีรถมินิบัสเหาะได้(ถ้าเป็นเด็กปี2จะนั่งรถตู้ลอยได้) แล้วจะมาถึงเมืองสงขลาแล้วก็ข้ามน้ำด้วยเรือ มุ่งตรงมายังเกาะหนู พอพวกเราปิดเทอมก็จะนั่งมินิบัสหรือรถตู้พากันกลับบ้าน วิทยาลัยพ่อมดแม่มดมนตราแห่งนี้เป็นปราสาทหรูเก่าแก่เล็กๆ มีนักเรียนไม่ค่อยเยอะ ผมเองก็ได้เจอเพื่อนๆ ของผมสองคน คนแรกชื่อนิว นิวเขาเป็นคนจังหวัดสกลนคร เขามีพลังวิเศษรักษาพืชให้กลับมาเขียวขจี ส่วนอีกคนหนึ่งเขาชื่อ พลับ เขามาจากนนทบุรี ส่วนผมชื่อ ตั้มส่วนอาจารย์มักเรียกผมว่า 'คุณแสนวงศ์' ผมมาจากสงขลา
เด็กชายในชุดคลุมยาวสีดำเดินมุ่งหน้ามายังเด็กชายรูปร่างผอมก่อนที่จะพูดขึ้น
"นี่ตั้ม นายไม่อ่านประวัติของวิทยาลัยแห่งนี้หรอ เห็นเขาว่าห้องโถงใหญ่นี่ใกล้กับห้องครัวเลยนะ แล้วกีฬาของที่นี่ก็มีชื่อเสียงด้วยนะ"
"กีฬาที่ว่านี่คืออะไรหรอ"
"ก็ควิดดิชหรือไม่ก็โปโลกลางอากาศยังไงนะ"
เด็กชายทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เด็กชายอีกคนก่อนมองไปยังเบื้องหน้าเห็นเด็กหญิงอีกคนกำลังเดินตรงมายังทั้งคู่
"ไงคุณตั้ม คุณนิวแล้วคุณพลับไม่อยู่หรือ"เด็กหญิงถามถึงอีกฝ่าย
"อ๋อ เขาไม่อยู่หรอก ถ้าเขาอยู่ก็ต้องเห็นสิ"เด็กชายอีกคนตอบ
เด็กหญิงสวมชุดคลุมสีดำสนิททรุดลงนั่งที่นั่งตรงข้ามก่อนหยิบปากกาขนนกออกมาเขียน ผมหรี่ตาไปอีกทางในตอนนี้เด็กชายในชุดคลุมกำลังฝึกบินด้วยการขี่ไม้กวาด ก่อนที่เด็กหญิงที่อยู่ตรงหน้าเอ่ยขึ้น
"แย่จังเลย ศาสตราจารย์ จุฑามาศ ไม่มาเลยเห็นอาจารย์อี๊ดบอกว่าอาจารย์จุฑามาศไม่สบาย"
ผมจึงถามขึ้น
"อาจารย์จุฑามาศเป็นอะไร"
เด็กหญิงเม้มปากก่อนส่งยิ้ม
"เป็นโรคไข้หวัดมังกรน้อย(ไข้หวัดธรรมดา) สามวันถึงจะหายแต่ศาตราจารย์มธุรสปรุงยาให้อยู่นะ"
เด็กชายที่นั่งขนาบข้างกำลังหยิบสมุดเล่มบางเล็กๆ ขึ้นมาวางบนโต๊ะก่อนที่จะหยิบปากกาขนนกกับขวดหมึกวางบนโต๊ะ เขากำลังหมุนเกียวเพื่อเปิดขวดก่อนจุ่มปากกาขนนกมาเขียน ผมเห็นอีกฝ่ายกำลังเขียนจึงถาม
"นิวเขียนอะไรอยู่หรอ"
นิวพูดสวนกลับมา
"อาจารย์รณรงค์ เขาสั่งพวกเราว่าให้เขียนเรียงความเรื่อง สัตว์วิเศษในป่าหิมพานต์นะ"
เด็กชายอีกคนลืมไปเสียสนิทเลยก่อนที่จะถามกับเด็กหญิง
"เธอรู้อะไรไหม ในป่าหิมพานต์อยู่ตรงไหนของโลกนี้"
"นี่ตั้ม เห็นอาจารย์สอนสัตว์หิมพานต์ที่วิเศษเขาบอกว่า ป่าหิมพานต์อยู่บนฟ้า ขนาดคนธรรมดาเขาไม่สามารถเห็นเลย มีแต่พวกเราเห็นสัตว์แบบนั้นได้"เธอตอบ
"ก็จริงนะ จริงสิฉันยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย เธอชื่ออะไร"เด็กชายที่นั่งตรงข้ามถาม
"ฉันชื่อใบเฟิร์น ฉันมาจากราชบุรีฉันดีใจที่ได้เรียนที่นี่"เธอตอบห้วนๆ
เด็กชายนั่งตรงข้ามเธอยังสงสัยจึงถาม
"จริงสิเธอรู้ได้ไงว่าเธอมีพลังวิเศษ"
เด็กหญิงเริ่มเล่าเรื่องราวประหลาด
"เธอรู้ไหม วิทลัยแห่งนี้คนธรรมดาจะไม่สามารถมองเห็นนอกจากผู้วิเศษเท่านั้นที่จะมองเห็น ฉันยั่งรู้ชะตาในอนาคต แล้วนายทั้งสองคนละ"
เด็กชายเริ่มเล่า
"ฉันหรอ ก็กำลังเล่นกับแมวนะแต่มันก็ได้ยินเสียงฉันนะ"
"แล้วเธอละ"
เด็กชายอีกคนเริ่มเล่าให้คนตรงข้ามฟัง
"เราหรอ พ่อแม่เราเป็นพ่อมดแม่มดนะ เรามีพลังวิเศษตอนอายุ6ขวบ สามารถทำให้พืชที่ใกล้ตายกลับมาให้เขียวอีกครั้ง"
เด็กหญิงหรี่ตามองในวันที่อากาศไม่ค่อยเป็นใจก่อนพูดกลับไป
"นายสองคนอยากลิ้มลองลูกอมที่มีรสแปลกไหม"
เด็กชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าตอบ
"ไม่นะ ขอบคุณนะใบเฟิร์น แล้วคนธรรมดาจะเห็นที่นี่เป็นอะไรหรอ"เขาถามด้วยความสงสัย
เด็กหญิงนึกขึ้นเขาเดา
"ถ้าคนธรรมดามาเห็นที่นี่ คงคิดว่าเขาเห็นต่างจากพวกเรา เราเห็นเป็นแค่วิทยาลัยพ่อมดแม่มดแต่พวกเขาเห็นแค่อาคารร้างแบบว่าบ้านร้างผีสิงมั๊ง"
เด็กชายผมสีดำที่นั่งขนาบข้างกำลังเขียนก่อนพูด
"พวกนายเคยเห็นเหราไหม"
เขาพูดจบก่อนที่เด็กหญิงจะหยิบหนังสือขึ้นมาวาง เป็นหน้าปกฤาษีแก่คนหนึ่งกำลังถือไม้เท้า ก่อนเปิดไปหน้าที่23 ก่อนเธอจะอ่านให้ฟัง
"เหรา เป็นสัตว์หิมพานต์ชนิดหนึ่งลำตัวคล้ายนาค มีขา มีเขาเหมือนมังกร มีหงอนอยู่กลางหัว ใบหน้ายาวปลายจมูกแหลมดวงตากลมโตริมฝีปากแดงมีเขี้ยวแหลมคมมีฟันตลอดริมฝีปากบนล่าง มีเขา มีหงอนอยู่กลางหัวเป็นกนกเปลวยื่นไปข้างหน้า แต่ฉันว่านี่คงเป็นมังกรของเมืองไทยนะ" เธอตอบ
เด็กชายอีกคนค้าน
"ใครบอกละ มังกรของไทยคือพญานาคต่างหาก เธอไม่เคยรู้เลยเหรอว่าตำนานบ้านเกิดฉันนะมีตำนานหนองหารว่าถึงเรื่องพญานาคเลยนะ"
เด็กหญิงหันมาทางคนพูด
"พญานาคคืออะไร ก็คืองูใหญ่ มีหงอน บางตัวร่างกายมีสีเขียว สีดำ หรือบางตัวก็มีสีนวล ดวงตาสีแดง แต่ท่านอยู่เมืองบาดาลคนธรรมดาเขามีความเชื่อแบบนี้ใช่ไหม พอดีพ่อฉันคนหนองคาย"
เขาตอบแบบฉุนๆ
เด็กชายกำลังเขียนไปก่อนที่เด็กชายที่นั่งข้างๆ เอ่ยขึ้น
"ตำนานของหนองหารก็มีพญานาคด้วยหรอ"
"มีสิ เธอจำปี60 ได้ไหมที่น้ำท่วมสกลก็เพราะว่าพญานาคให้น้ำมาเยอะเพราะทางผู้ว่าฯ ไม่บวงสรวงท่านก่อนนะ"
เด็กชายตกตะลึงกับข่าว
"จริงเหรอที่ว่านะ"
"อืม"
ก่อนที่เด็กชายตัวเล็กเดินมาถึงเป็นเด็กชายผมดำก่อนที่จะเดินมาถึงและทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เด็กหญิง
"พวกนายกำลังคุยอะไรกันเหรอสหาย"เขาถามเด็กชายที่นั่งฝั่งตรงข้าม
"พอดีพวกเรากำลังคุยเรื่องพญานาคนะ แล้วนายเขียนเรียงความเสร็จหรือยัง"
"ยังนะ ขอโทษนะที่มาช้า พอดีศาสตราจารย์เมืองมลเขาเรียกให้เราไปคุยเรื่องหนึ่งนะสิ"
"เรื่องอะไรหรอ"เด็กชายที่อยู่ตรงข้ามเด็กหญิงถามขึ้น
"ก็เรื่องนกพิราบสื่อสารนะ ที่นี่มีโรงเก็บนกพิราบด้วย เมื่อวันก่อนพ่อของนายส่งเจ้านี่มาให้เธอสองคนด้วย"
เด็กชายที่นั่งขนาบข้างเด็กหญิงยื่นช็อกโกแลตให้
"นี่มันช็อกโกแลตนี่ เขาได้บอกไหมว่าถ้ากินเข้าไปมันจะทำให้เรารู้สึกร่าเริง"
เด็กชายพูดจบ ก่อนหรี่ตามองเห็นหญิงวัยสี่สิบสามปีสวมชุดคลุมยาวสีดำสนิทเดินตรงมายังเด็กทั้งสี่คนพร้อมแผดเสียงขึ้น
"คุณแสนวงศ์ คุณโสภา คุณแสนสุภา และคุณพงษ์พันธ์ ฉันตามหาเธอทั้งสี่คนจนแย่แนะ"
เด็กหญิงอีกคนถามขึ้น
"มีอะไรหรอคะอาจารย์"
"ใช่ฮะมีอะไรหรอฮะ"นิวเสริม
อาจารย์ถอนหายใจจึงพูดขึ้น
"คือว่า ทางเราได้ให้ตัวแทนของเราไปประลองเวทย์ไตรภาคีที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในสก๊อตแลนด์นะ เขาแจ้งมาเป็นภาษาอังกฤษนะ" ก่อนยื่นให้เด็กทั้งสี่คนดู เด็กชายผมดำเส้นผมตรงสั้น หยิบเอกสารก่อนที่จะอ่านข้อความเป็นภาษาอังกฤษให้ทุกคนฟัง พออ่านจบ นิวยังสงสัย
"อาจารย์ฮะ พวกเราส่งตัวแทนไปแล้วคนนั้นคือใครฮะ"
หญิงวัยสี่สิบสามเอ่ยขึ้นลอยๆ
"ก็จะใครซะอีกละ เด็กปีสามไงรุ่นพี่เธอ นามสกุลชื่อ วงศ์พัวพันธ์ไง"เธอตอบแบบเรียบๆ
"พี่เจมส์ นี่เอง แต่เขาเก่งเป็นถึงนักเรียนดีเด่นนี่คะอาจารย์"
"ใช่ๆ เราเคยเห็นพี่เขาเคยใช้คาถาเรียกของด้วยละ เมื่อเดือนก่อน"พลับบอก
"อาจารย์มณีวรรณคะ พี่เขาจะได้ถ้วยกลับมาไหมคะ"ใบเฟิร์นถาม
"อาจารย์คิดว่าเขาคงได้กลับมานะ แต่อาจารย์มาที่นี่เพราะแจ้งให้พวกเธอทราบ เธอคงรู้นะ"
ก่อนที่หญิงร่างเล็กจะหมุนตัวเดินกลับไปเข้าอาคาร เด็กหญิงเอ่ยขึ้น
"นายสามคน คิดว่ายังไง"
เด็กชายทั้งสองคนมองหน้ากัน
"ไม่รู้สิ"
ก่อนที่เด็กหญิงจะหยิบลูกแก้วขึ้นมาวางก่อนที่จะเอื้อมมือเผื่อให้ภาพในลูกแก้วปรากฎขึ้นมา ในตอนนี้ภาพในลูกแก้วปรากฎขึ้นเป็นภาพเด็กชายวัยสิบห้าปีคนหนึ่งกำลังวิ่งผ่านเขาวงกตเด็กชายทั้งสามจ้องมองด้วยความตื่นเต้นปนอยากรู้ก่อนที่นิวจะพูดขึ้น
"พี่เขาไปแล้ว เธอคิดว่าวันนี้เราจะเรียนวิชาอะไรเป็นวิชาแรก"
ก่อนที่ทั้งสองคนจะเพ่งมองลูกแก้วแต่ตอนนี้ไม่ปรากฎภาพใดๆ เลย ก่อนที่เด็กหญิงจะหยิบลูกแก้วใส่เข้าไปในกระเป๋าตามเดิม แต่คราวนี้เธอกลับหยิบแผ่นกระดาษออกมา
"วันนี้วันจันทร์ คาบแรกเรียนวิชาการปรุงยากับศ.ดำเนินนะ"เธอตอบ
เด็กชายทั้งสองคนขมวดคิ้วเป็นปมเพราะเขาไม่ค่อยชอบวิชานี้ ยกเว้นพลับกลับทำสีหน้าดูร่าเริงผิดไปจากสองคนที่ว่า
"ใบเฟิร์นต้องเรียนปรุงยากับพวกเรานี่ใช่ไหม"พลับถามพลางส่งยิ้มมาให้
เด็กหญิงพยักหน้ารับแทนคำตอบ
พลับลุกขึ้นเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตเขาหิ้วกระเป๋าก่อนที่จะหมุนตัวมุ่งหน้าไปในตัวอาคาร เด็กทั้งสามมองตามหลังพลับไป
"เราไม่เคยเห็นพลับเป็นแบบนี้มาก่อน"เด็กชายคนแรกบอก
"จริงด้วย"ตั้มเสริม
เด็กหญิงที่นั่งตรงข้ามนิวก็ลุกขึ้นตามพลับไปอีกคน
"นิว นายเขียนเรียงความเสร็จหรือยัง"ตั้มถาม
"อีกนิดหนึ่งใกล้เสร็จแล้ว"นิวตอบ
ตั้มลุกขึ้นก่อนเก็บหนังสือใส่กระเป๋าก่อนหอบกระเป๋า
"งั้นค่อยเจอกันที่หน้าห้องเรียนปรุงยาชั้นสองนะ"
เด็กชายผมตรงและสั้นเดินออกจากม้านั่งมุ่งหน้าไปยังอาคารเรียน
ทีนี้เหลือแต่เด็กชายที่กำลังเขียนเรียงความในวินาทีต่อมาเขาเขียนจนเสร็จก่อนเก็บปากกาขนนก ปิดฝาขวด และเก็บแผ่นกระดาษใส่ลงไปในกระเป๋าก่อนลุกขึ้นมุ่งหน้าตามหลังตั้มไปเข้าเรียนวิชาปรุงยา
เขาเดินเข้ามาในตัวอาคารเขาเห็นเด็กชายผมตรงสั้นยืนอยู่ก่อนพูด
"นายรอนานไหม"
"ไม่เลยนะ เราเข้าไปข้างในห้องกันเถอะ"
ภายในห้องแสนจะดูธรรมดา ยกเว้นหม้อใหญ่ ห้าหม้อ แต่ละหม้อทำมาจากดีบุก เด็กชายทั้งสองคนเดินไปยังหม้อที่ยังว่าง ก่อนที่จะมีพ่อมดคนหนึ่ง สวมชุดคลุมยาวสีดำ ร่างสูง กำลังเอ่ย
"อรุณสวัสดิ์นักเรียนทุกคน วันนี้เราจะมาเรียนวิชาปรุงยา วันนี้จะมาทำน้ำยาเสน่ห์ วัตถุดิบเราต้องไปหา ขนสุนัขดำ หญ้าน้ำค้าง มูลของม้ามังกร น้ำค้าง(ต้องเก็บคืนเดือนเพ็ญ) แค่นี้ เราก็ใส่ขนสุนัขดำ ตามด้วยมูลของม้ามังกร เคี่ยวสามรอบตามเข็มนาฬิกาโบกไม้กายสิทธิ์ไปอีกครั้ง ใส่น้ำค้าง ส่วนหญ้าน้ำค้างใส่ทีหลัง คนให้เข้ากัน ให้มันเป็นสีชมพูถึงเอาใส่ขวดบรรจุเข้าใจไหม"
"เข้าใจครับอาจารย์"
พอสิ้นเสียงตั้มก็เขียนวัตถุดิบทั้งหมดพร้อมด้วยวิธีทำลงไปในแผ่นกระดาษ ก่อนที่เขาจะสับเปลี่ยนกันคนเขาก็หยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาก่อนโบกไปด้วย
พอตอนช่วงเวลาว่างเขาหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาก่อนใช้ปากกาขนนกเขียน
'วันนี้มีความสุขมากๆ ผมเป็นนักเรียนปี1 ของที่นี่ผมได้รู้จักเด็กผู้ชายชื่อ พลับ เขาเก่งวิชาปรุงยาผมได้รู้จักเด็กทั้งสองคน คือ นิว กับใบเฟิร์น ใบเฟิร์นเธอเป็นแม่มดน้อยที่ผมรู้จักเธอเก่งการบิน แรกๆ ผมทำได้ไม่ค่อยดีตอนนี้ผมต้องขยันอีก ผมดีใจมากที่ได้รู้จักคณะอาจารย์ของที่นี่ ผมก็เป็นผู้วิเศษของวิทยาลัยแห่งนี้ ผมดีใจมากๆ ที่ได้เข้าเรียนผมจบมาก็จะได้ทำงานกระทรวงเวทมนตร์ประจำประเทศไทยเสียแล้ว"
เขาเขียนเสร็จก่อนวางปากกาขนนกบนโต๊ะก่อนปิดสมุดบันทึก
เด็กชายเขาหยิบไม้กายสิทธิ์เป็นลวดลายที่ดูแปลกตาทำมาจากไม้แอ๊ปเปิ้ล แกนกลางปะการัง ก่อนที่จะสอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อตามเดิมก่อนที่จะหันไปมองวิทยาลัยแห่งนี้อีกหนด้วยความปลาบปลื้มใจ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Nutthapol-33 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Nutthapol-33
ความคิดเห็น